ตำแหน่งหมายเลข 6 กลายเป็นปัญหาที่แก้ไม่ตกของ ‘บาร์ซ่า’ นับตั้งแต่ บุสเก็ตส์ อำลาถิ่น คัมป์ นู ในช่วงซัมเมอร์ปี 2023 โดยพวกเขาพลาดในการเซ็นสัญญากับ มาร์ติน ซูบีเมนดี้ มิดฟิลด์วัย 26 ปีของ เรอัล โซเซียดาด ซึ่งเป็นเป้าหมายเบอร์ 1 ของ ชาบี เอร์นานเดซ แต่นักเตะมีค่าฉีกสัญญามูลค่า 60 ล้านยูโร เป็นอุปสรรคสำคัญของยักษ์ใหญ่แคว้นกาตาลุนย่า

ด้วยปัญหาทางการเงินของ ‘เจ้าบุญทุ่ม’ ทำให้ไม่สามารถดึงกองกลางชาวสเปน มาเป็นทายาทของ บุสเก็ตส์ อย่างที่คาดหวัง ก่อนพวกเขาจะลดระดับลงมาเซ็นสัญญากับ โอริโอล โรเมอู ซึ่งทำผลงานได้ดีกับ กิโรน่า ด้วยค่าตัว 3.4 ล้านยูโร โดยเป็นการหวนคืนสโมสรแม่อีกครั้งแรกในรอบ 12 ปี ของมิดฟิลด์วัย 32 กะรัต ที่เข้ามาเป็นตัวแทนระยะสั้นของ ซูบีเมนดี้ ที่สโมสรหมายปอง

แต่เมื่อเวลาผ่านไปมันพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า แข้งเกรด ซี อย่าง โรเมว ไม่สามารถทดแทนนักเตะระดับท็อปคลาสอย่าง บุสเก็ตส์ ส่งผลให้เขาหลุดเป็นตัวสำรองหลังผ่านช่วงต้นซีซั่นไม่นานนัก

นายใหญ่ชาวสเปน พยายามทดลองปรับให้ แฟรงกี้ เดอ ยอง หรือ อิลคาย กุนโดกัน มาเล่นตำแหน่งหมายเลข 6 แต่ทั้ง 2 คนไม่ใช่ผู้เล่นเกมรับโดยธรรมชาติ และยังทำให้สูญเสียประสิทธิภาพการเล่นเกมรุกที่เป็นจุดแข็งของทั้งคู่อีกด้วย

ท้ายที่สุด อดีตตำนาน ‘ต่างดาว’ ตัดสินใจให้ คริสเตนเซ่น ขึ้นมารับบทบาทหมายเลข 6 หลังนักเตะเคยเล่นตำแหน่งดังกล่าวกับทีมชาติเดนมาร์กห ลายปีก่อนหน้านี้ ซึ่งเจ้าตัวทำให้เกมแดนกลางของทัพอาซูลกราน่า มีความสมดุลมากขึ้น ส่งผลให้ทั้ง แฟรงกี้ กับ กุนโดกัน มีอิสระในการเล่นมากขึ้นด้วย

แม้ตำแหน่งธรรมชาติของ คริสเตนเซ่น จะเป็นกองหลังก็ตาม แต่ ชาบี ส่งเขาลงเล่นตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรับในช่วงหลายเกมที่ผ่านมา ซึ่งแข้งวัย 27 ปี เล่นในบทบาทดังกล่าวได้ค่อนข้างดี หลัง ‘บาร์ซ่า’ ต้องดิ้นรนกับตำแหน่งหมายเลข 6 มาตลอดในฤดูกาลนี้

ซึ่งตัวผมเองก็หวังว่า คริสเตนเซ่น จะทำผลงานในตำแหน่งเลขหมาย 6 นี้ได้ดีขึ้นเรื่อย ๆ และก้าวขึ้นมาเป็นตัวหลักของ ‘เจ้าบุญทุ่ม’ หลังจากที่เขาต้องออกไปโลดแล่นแบบยืมตัวให้กับหลายสโมสรในช่วงเวลก่อนหน้านี้ เขียนโดย The Lite Team.